ออกแบบ ตกแต่งภายใน บ้าน คอนโด ราคาตารางเมตรละเท่าไหร่ ใช้บริษัทรับเหมาราคาถูกหรือแพง ต้องจ้างอินทีเรียดีไซเนอร์(มัณฑนากร)ไหม ชมตัวอย่างจากบทความนี้ ไม่ต้องpantip
อินทีเรีย ดีไซเนอร์ คืออะไร
อินทีเรียดีไซเนอร์ หรือ มัณฑนากร คือ ผู้ที่ทำหน้าที่ออกแบบตกแต่งภายในอาคาร บ้าน ที่อยู่อาศัยประเภทต่าง ๆ โดยออกแบบพื้นที่ในบ้าน ให้มีฟังก์ชั่นเหมาะสมกับการใช้งาน พร้อมด้วยความสวยงาม ที่ตรงกับความต้องการของเจ้าของบ้าน
อีกทั้ง ยังมีหน้าที่เลือกวัสดุต่าง ๆ ที่ใช้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ให้ตรงกับสไตล์ และอยู่ในงบประมาณที่เจ้าของบ้านต้องการ โดยส่วนมาก มักจะต้องทำงานร่วมกับผู้รับเหมา และวิศวกร เพื่อให้ออกแบบ และติดตั้งได้อย่างเหมาะสมกับโครงสร้างของที่อยู่อาศัย
ออกแบบตกแต่งภายใน บ้าน ทาวน์เฮ้าส์ ตึกแถว คอนโด กับ UREBUILD
ออกแบบตกแต่งภายใน บ้าน ทาวน์เฮ้าส์ ตึกแถว คอนโด โดยอินทีเรียดีไซเนอร์(มัณฑนากร) มืออาชีพ กับ UREBUILD
รับออกแบบงานบิ้วอิน(Built-in) งานออกแบบ 3D รีโนเวท ด้วยทีมออกแบบมืออาชีพที่มีประสบการณ์นานหลายปี อินทีเรียดีไซเนอร์(มัณฑนากร) รับออกแบบตกแต่งภายใน Built-in ผลิตเฟอร์นิเจอร์ Built-in ปรึกษาประเมินราคาฟรี คุมงบตกแต่งได้ไม่บานปลาย รับตกแต่งทุกสไตล์ เช่น แนว Minimal Muji Classic Modern Loft Contemporary luxury ญี่ปุ่นjapanese
- ควบคุมคุณภาพงานออกแบบและรับเหมาตกแต่งภายในโดยวิศวกรและสถาปนิกให้ออกมาได้คุณภาพเกินมาตรฐาน ฟังก์ชั่นการใช้งานครบครัน
- มีทีมให้บริการครบวงจร Turnkey รับเหมาตกแต่งครบวงจร
- ติดต่อทำงบประมาณได้ทันที ปรึกษาฟรี เรามีทีมงานมือาชีพ มากประสบการณ์ บริการประทับใจ
- ให้บริการ รับเหมาตกแต่งภายใน รับออกแบบและตกแต่งภายใน ที่อยู่อาศัย บ้าน คอนโด ร้านอาหาร สำนักงาน ตกแต่งภายในครบวงจร office interior design ตามแบบไลฟ์สไตล์คุณ
- รับออกแบบตามงบประมาณ ราคาไม่แพง พร้อมเนรมิตบ้านธรรมดา ให้เป็นบ้านในฝัน โดยทีมช่างที่มากด้วยประสบการณ์ด้านการรับออกแบบภายในบ้าน
- ใส่ใจทุกรายละเอียดในการทำงาน จริงใจไม่ทิ้งงาน พร้อมให้คำปรึกษา วางแผนร่วมกันกับลูกค้า ประเมินราคาถึงหน้างาน วางแผนงานให้ตั้งแต่ต้นจนจบ
เราเป็นบริษัทที่รับออกแบบและตกแต่งภายในที่พักอาศัยทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน อาคาร คอนโด โรงแรม รวมถึงงานเฟอร์นิเจอร์ บิวท์อิน และงานก่อสร้าง ด้วยบริการที่ครบ จบในที่เดียว
ออกแบบ ให้คำปรึกษาทุกขั้นตอนมืออาชีพ ดูแลอย่างเป็นกันเอง ตามงบประมาณประสบการณ์นานหลายปี
บริการของ UREBUILD >> รับออกแบบตกแต่งภายใน
สารบัญ
- ตกแต่งภายใน ควรมีการจ้างอินทีเรียร์ ดีไหม
- แบ่งเงินสำหรับ ตกแต่งภายใน เท่าไหร่ดี
- ค่าจ้างอินทีเรียร์ คิดราคาอย่างไร
- การเชิญซินแสดูฮวงจุ้ยและแม่เจ้าของบ้าน
- สรุป
ตกแต่งภายใน ควรมีการจ้างอินทีเรียร์ ดีไหม
นอกเหนือจากรูปลักษณ์ของอาคารภายนอกและการจัดสวน บ้านจะสวยสมบูรณ์แบบได้นั้น การตกแต่งภายในถือเป็นส่วนสำคัญ แน่นอนว่าเจ้าของบ้านหลายๆ คนก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้
แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถสร้างสรรค์การตกแต่งภายในบ้านให้ออกมาสวยงาม อยู่สบาย และใช้งานได้ครบครัน ทำให้เจ้าของบ้านหลายๆ คนมองหาผู้มารับหน้าที่สร้างสรรค์ให้ทุกอย่างภายในบ้านลงตัว คนคนนั้นก็คือนักออกแบบตกแต่งภายใน หรือมัณฑนากร
ใครคือนักออกแบบตกแต่งภายใน
มัณฑนากร นักออกแบบตกแต่งภายใน อินทีเรียร์ ดีไซเนอร์ ซึ่งหลายคนเรียกติดปากว่า “อินทีเรียร์” คือ ผู้ทำหน้าที่ออกแบบพื้นที่ว่างภายในอาคาร (Space) โดยคัดสรรวัสดุที่เหมาะสม พร้อมออกแบบให้ตอบสนองการใช้งาน (Human Scale) และอยู่ภายใต้บริบทของความสวยงาม (Arts)
หน้าที่ของมัณฑนากรแตกต่างจากสถาปนิก ทั้งขอบเขตหน้าที่ที่สถาปนิกคือผู้ออกแบบตัวอาคารโดยรวมทั้งหมด ต้องทำงานร่วมกับวิศวกร ช่างผู้รับเหมา และมัณฑนากร ซึ่งเป็นผู้รับหน้าที่ออกแบบตกแต่งภายใน
ผู้ประกอบอาชีพมัณฑนากรต้องเป็นผู้รู้ในเรื่องของการออกแบบพื้นที่ภายในอาคาร โดยส่วนมากมักจบการศึกษา สาขาสถาปัตยกรรมภายในและมัณฑนศิลป์ แต่ในบางกรณีนักตกแต่งภายในก็ไม่ได้จบการศึกษาทางด้านนี้โดยตรง แต่เป็นผู้รู้ที่มีความสามารถด้านการออกแบบตกแต่งภายใน ก็สามารถประกอบอาชีพนี้ได้เช่นกัน
แต่ในกรณีที่ต้องออกแบบพื้นที่ภายในอาคารสาธารณะ ขนาด 500 ตารางเมตรขึ้นไป ผู้ออกแบบจะต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรม สาขาสถาปัตยกรรมภายใน และมัณฑนศิลป์ จากสภาสถาปนิก ตามกฎกระทรวง (พ.ศ. 2549) ว่าด้วยการกำหนดวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุม
ในขั้นตอนของการทำงานออกแบบ ทั้งสถาปนิกและมัณฑนากรจะต้องทำงานร่วมกันเพื่อให้บ้านหนึ่งหลังสวยงามทั้งภายนอกและอยู่สบายในพื้นที่ภายใน แต่ในบางกรณีอย่างบ้านโครงการจัดสรรหรือโครงการคอนโดมิเนียมที่ต้องรอโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จก่อน มัณฑนากรจึงจะเข้าดำเนินการออกแบบตกแต่งได้ในภายหลัง
ในระหว่างก่อสร้างมัณฑนากรจะเข้าตรวจสอบความเรียบร้อยและสำรวจส่วนต่างๆ อย่างการวางระบบไฟ ระบบน้ำ เพื่อทำการออกแบบในขั้นตอนแรกให้เกิดความเหมาะสมกับการใช้งานของเจ้าของบ้านและให้ง่ายต่อการตกแต่งภายในให้เกิดความสวยงาม
แบ่งเงินสำหรับ ตกแต่งภายใน เท่าไหร่ดี
หากจะตกแต่งภายในบ้าน สิ่งที่ต้องรู้ในเบื้องต้นเพื่อบอกกล่าวกับมัณฑนากรคือ ความต้องการของตนเอง อย่างรูปแบบความสวยงามหรือสไตล์บ้านที่ตนชอบ การใช้งานหรือกิจกรรมภายในบ้านที่ตนเองและครอบครัวทำร่วมกันอยู่เสมอ และงบประมาณสำหรับตกแต่งภายใน
วิธีคำนวณเงินเบื้องต้นสำหรับตกแต่งภายในนั้น ให้แบ่งเงิน 30% ของราคาบ้าน เพื่อเป็นค่าจัดสรรพื้นที่ภายใน ซึ่งภายในงบ 30% ของราคาบ้าน จะประกอบไปด้วย ค่าออกแบบโดยมัณฑนากร ค่าวัสดุและเฟอร์นิเจอร์บิลท์อินและลอยตัว ค่าแรงช่าง
ทั้งนี้งบตกแต่งภายในจะมากหรือน้อยกว่านี้ก็ได้ตามแต่สะดวก โดยที่เจ้าของบ้านสามารถจัดจ้างเฉพาะมัณฑนากรสำหรับออกแบบ แล้วจัดหาช่างผู้รับเหมาเอง หรือจะมอบหน้าที่ทั้งหมดให้ มัณฑนากรดูแลจนแล้วเสร็จก็ได้ ขึ้นอยู่กับข้อตกลงที่มีร่วมกัน
ค่าจ้างอินทีเรียร์ คิดราคาอย่างไร
มาถึงค่าบริการออกแบบ ซึ่งกำหนดโดยสมาคมมัณฑนากรแห่งประเทศไทย (TIDA) เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ได้กำหนดระดับอัตราค่าบริการวิชาชีพขั้นพื้นฐาน หรือค่าจ้างอินทีเรียร์ ไว้เป็น 3 รูปแบบด้วยกัน คือ การคิดค่าบริการวิชาชีพแบบอัตราร้อยละ (Percentage of Project) การคิดค่าบริการวิชาชีพแบบคำนวณจากเวลาทำงาน (Hourly Rate) และการคิดค่าบริการวิชาชีพแบบเหมารวม (Lump Sum)
แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะคิดค่าบริการออกแบบแบบอัตราร้อยละ ตามลักษณะกลุ่มอาคารที่แบ่งเป็น 4 ประเภทด้วยกัน โดยบ้านพักอาศัย ห้องชุดพักอาศัยจัดอยู่ในอาคารประเภทที่ 2 ซึ่งคิดค่าบริการออกแบบดังนี้
งบตกแต่งภายในไม่เกิน 5 ล้าน= ค่าบริการวิชาชีพ 15%
งบตกแต่งภายใน 5-10 ล้าน= ค่าบริการวิชาชีพ 13%
งบตกแต่งภายใน 10-20 ล้าน= ค่าบริการวิชาชีพ 11 %
งบตกแต่งภายใน 20-50 ล้าน= ค่าบริการวิชาชีพ 10 %
งบตกแต่งภายใน 50-100 ล้านบาท = ค่าบริการวิชาชีพ 9 %
งบตกแต่งภายใน 100-200 ล้านบาท = ค่าบริการวิชาชีพ 8 %
งบตกแต่งภายใน 200-500 ล้านบาท = ค่าบริการวิชาชีพ 7 %
งบตกแต่งภายใน 500 ล้านบาทขึ้นไป = ค่าบริการวิชาชีพ 5 %
ควรจ่ายค่าจ้างตอนไหน
มีน้อยนักที่เจ้าของบ้านจะยอมจ่ายเงินเป็นก้อนใหญ่ครั้งเดียวตั้งแต่ก่อนงานเริ่ม เพราะหากเป็นเช่นนั้นก็เสี่ยงต่อการ “หนีงาน” เป็นอย่างสูง ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการจัดจ้างทั้งสร้างบ้าน ต่อเติมบ้าน หรือตกแต่งบ้านก็ควรมีการแบ่งจ่ายเป็นงวดๆ โดยมาตรฐานสมาคมมัณฑนากรแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรมภายในและมัณฑนศิลป์ ปีพ.ศ.2551 ได้กำหนดการจ่ายค่าออกแบบ ดังนี้
10% : ตกลงว่าจ้างและทำสัญญาจ้าง
30% : เสนองานออกแบบหรือส่งแบบร่างเบื้องต้น ซึ่งเป็นแบบที่เกิดจากการรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ และสร้างสรรค์ให้เกิดความสวยงามตามแบบที่เจ้าของบ้านชื่นชอบ
20% : ปรับปรุงแบบ หลังจากเสนอแบบครั้งแรก เจ้าของบ้านสามารถออกความคิดเห็นเพิ่มให้อินทีเรียร์ปรับปรุงแบบตามความเหมาะสม คัดเลือกสเป็กวัสดุ เพื่อให้แบบบ้านออกมาดีที่สุด
30% : ส่งมอบแบบที่สมบูรณ์ หลังจากปรับปรุงแบบเป็นที่เรียบร้อย ขั้นตอนต่อไปคือส่งมอบแบบเพื่อมอบให้ช่างผู้รับเหมาดำเนินการสร้างจริง ส่วนนี้หากเจ้าของบ้านจัดหาผู้รับเหมาเองจะเป็นอันสิ้นสุดหน้าที่ของผู้ออกแบบ แต่ส่วนใหญ่แล้วมักจะให้อินทีเรียร์ดูแลความเรียบร้อยในขั้นตอนคุมงานก่อสร้างจนบ้านเสร็จสมบูรณ์พร้อมเข้าอยู่ (ขึ้นอยู่กับเจ้าของบ้านกับผู้ออกแบบจะตกลงกัน)
10% : เริ่มงานก่อสร้างจนแล้วเสร็จ เมื่อช่างผู้รับเหมาดำเนินการตกแต่งภายในบ้านตามแบบที่ออกแบบไว้ อินทีเรียร์จะยังคงดูแลความคืบหน้า ความเรียบร้อยในขั้นตอนก่อสร้างตกแต่งภายในให้เป็นไปตามแบบบ้านที่วางไว้
การทำสัญญาจ้างอินทีเรีย
ความรอบคอบเป็นเรื่องสำคัญ แม้ว่าอินทีเรียร์ที่เลือกให้มารับหน้าที่ตกแต่งบ้านแสนรักของเรานั้นจะเป็นคนรู้จัก เพื่อนแนะนำ หรือไว้ใจมากแค่ไหน ก็ควรทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรให้แน่ชัด เพื่อความสบายใจกันทั้งสองฝ่าย โดยในสัญญาต้องระบุ ชื่อที่อยู่ผู้ว่าจ้าง ชื่อที่อยู่ผู้รับจ้าง งบประมาณ การแบ่งจ่ายค่าจ้าง และขอบเขตหน้าที่ของอินทีเรียร์ให้แน่ชัด
การเชิญซินแสดูฮวงจุ้ยและแม่เจ้าของบ้าน
ซินแส จะเรียกว่าเป็นคู่ปรับตลอดกาลก็ไม่ถูกเสียทีเดียว เพราะเรื่องของฮวงจุ้ยนั้นก็มีส่วนประกอบของวิทยาศาสตร์ที่พิสูจน์ได้จริง และส่งผลต่อผู้อยู่อาศัยในบ้านโดยตรง แต่ปัญหามักจะตามมาหลังจากที่ก่อสร้างเสร็จเรียบร้อย แล้วต้องมีการปรับแก้ ทุบรื้อ สร้างเพิ่ม (เพื่อความเป็นสิริมงคล) เหล่านี้จึงเป็นเรื่องปวดหัวของอินทีเรียร์จำนวนไม่น้อยทีเดียว
ในกรณีที่ “ซินแสและฮวงจุ้ย” เป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ เจ้าของบ้านควรบอกกล่าวกับอินทีเรียร์ตั้งแต่ขั้นตอนส่งแบบร่างหรือออกแบบครั้งแรก เพื่อให้ทั้งสองได้ทำงานร่วมกันและแก้ไขในบางจุดทันท่วงที เพราะหากเลยเถิดถึงขั้นก่อสร้างแล้ว การทุบรื้อจะทำให้เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มและสร้างความล่าช้าในการส่งมอบงานอีกด้วย
ส่วน “แม่เจ้าของบ้าน” (ที่มักเป็นผู้พาซินแสเข้าบ้าน) คงหนีไม่พ้นเรื่องเฟอร์นิเจอร์เก่าไม่อยากทิ้ง แต่ความสวยงามหรือการแมตช์กับงานดีไซน์ภายในบ้านไปคนละทิศละทาง สำหรับนักออกแบบแล้วคงเป็นเรื่อง “สุดเซ็ง” ที่ทำให้รู้สึกอยากสร้างห้องเก็บซ่อนเฟอร์นิเจอร์เหล่านั้น (บางทีเจ้าของบ้านก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน) เรื่องนี้ควรหาทางออกร่วมกันทั้งสามฝ่าย เพราะถึงอย่างไรเฟอร์นิเจอร์บางชิ้นก็มีคุณค่าทางใจเช่นกัน
สรุป
การออกแบบตกแต่งภายใน และรีโนเวทบ้านให้สวยงาม น่าอยู่ โดยใช้ประโยชน์จากพื้นที่ในบ้านอย่างเต็มที่ อาจไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับใครหลายคน การหาตัวช่วยดี ๆ อย่าง อินทีเรีย (interior) หรือ มัณฑนากร มาช่วยออกแบบภายใน จึงเป็นตัวเลือกที่เจ้าของบ้าน นิยมใช้กันมากขึ้น
อินทีเรียสำคัญต่อการออกแบบตกแต่งภายในอย่างไร
1. การออกแบบได้มาตรฐาน
อินทีเรียนั้น มีความสำคัญต่อการรีโนเวทบ้านเป็นอย่างมาก เพื่อให้ปรับปรุงบ้านได้อย่างเหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด โดยอินทีเรีย จะทำหน้าที่ออกแบบภายในให้ได้มาตรฐาน ใช้พื้นที่ได้อย่างเต็มที่ อยู่ในระยะการใช้งานที่ปลอดภัย ซึ่งจะช่วยตอบสนองการใช้ชีวิตให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
2. วางโครงสร้างให้เหมาะกับพื้นที่ได้
ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่จำกัด หรือพื้นที่กว้าง อินทีเรียก็สามารถออกแบบพื้นที่ให้ตอบโจทย์การใช้งานได้มากที่สุด จัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ใช้พื้นที่ในบ้านได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเหลือพื้นที่ว่างที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ หรือพื้นที่เหลืออยู่น้อยจนใช้งานได้ไม่สะดวก
3. ได้ภาพรวมการตกแต่งตามสไตล์ที่ต้องการ
การจ้างอินทีเรียมาเป็นส่วนหนึ่งของการรีโนเวทบ้าน จะช่วยให้ภาพรวมการตกแต่งเป็นไปตามสไตล์ที่ต้องการ เพราะอินทีเรีย จะสอบถามหาความต้องการที่แท้จริงของเราก่อนเริ่มงาน ไม่ว่าจะเป็นสไตล์โมเดิร์น สไตล์ลอฟท์ หรือสไตล์อื่น ๆ ก็เลือกได้ตามความชอบ โดยยังคงฟังก์ชั่นการใช้งานที่สะดวกสบาย ปลอดภัย ตอบโจทย์สมาชิกในบ้าน ทุกเพศ ทุกวัย
4. ประหยัดเวลาตกแต่ง
ไม่จำเป็นต้องออกไปเลือกเฟอร์นิเจอร์เอง เพราะอินทีเรีย จะสามารถสรุปความต้องการของเราให้ออกมาเป็นรูปร่างได้มากขึ้น ว่าต้องการตกแต่งภายในด้วยสไตล์ไหน เลือกรูปแบบการใช้งานอย่างไร รวมถึงยังช่วยเลือกวัสดุคุณภาพมาให้ โดยไม่ต้องออกไปซื้อเฟอร์นิเจอร์มาประกอบเอง สะดวกสบาย และประหยัดเวลาได้เป็นอย่างมาก
5. งบประมาณไม่บานปลาย
มีงบประมาณเท่าไรก็แจ้งได้ โดยอินทีเรีย จะรับผิดชอบทั้งงานออกแบบ และช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายให้ไม่บานปลาย ต่างจากการเดินเลือกเฟอร์นิเจอร์เอง ที่นอกจากจะหาแบบที่ชอบยากแล้ว ยังอาจมีราคาเกินกว่าที่คาดไว้อีกด้วย